วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รู้จักกับเครือข่ายผู้บริโภค



MLM (Multilevel Marketing) คือการขยายเครือข่ายผู้บริโภค เพื่อ มุ่งเน้นการคืนกำไรสู่ผู้บริโภค ผ่านแผนการตลาด ที่วิเคราะห์โดยนักการตลาดมืออาชีพ ให้เราแปรรูปจากการเป็นผู้บริโภคธรรมดา มาเป็นได้ถึง 3 สถานภาพ โดยเป็นทั้งลูกค้า ผู้ขาย และ ผู้บริหาร ในคนเดียวกัน จึงไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร ที่ ผู้ทำ MLM ไม่ได้ขายสินค้าเอง แต่มีรายได้เป็นแสน เป็นล้านบาท เพราะเขาได้ทำการบริหารองค์กร เขาจึงมีรายได้จากการบริหารจำนวนมากต่อเดือน
MLM เป็นระบบการตลาดที่ให้โอกาสในการประสบความสำเร็จแก่ทุกคนเท่าเทียมกัน โดย ไม่สำคัญว่าจะเป็นใคร และใครเข้ามาก่อนหรือใครเข้ามาที่หลัง เป็นการเปิดโอกาสให้คุณสามารถทำธุรกิจได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล ลองศึกษาแผนการตลาดของเราให้ดีเถอะครับ จะได้ไม่ต้องเสียโอกาสดี ๆ ถ้าบริษัทดี แผนการตลาดดีตรงใจคุณ

ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา ได้มี “พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง” ขึ้นมา โดยกำหนดไว้ว่า บริษัทที่จะทำธุรกิจในระบบเครือข่าย (MLM) ต้องยื่นจดทะเบียนกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ถ้าหากบริษัทใดที่สามารถผ่านขั้นตอนการตรวจสอบจาก สคบ. และได้การรับรอง ก็ถือได้ว่ามีความน่าเชื่อถือ และมั่นคงเพียงพอ เนื่องจากการยื่นขอ สคบ. นั้นยากมาก และมีขั้นตอนการตรวจสอบ อย่างถี่ถ้วน เพราะทาง สคบ. จะตรวจสอบ ความน่าเชื่อถือ ความมั่นคงทางการเงิน และ แผนการตลาดของบริษัทว่ามีความสามารถ จ่ายผลตอบแทนได้จริงตามที่ตกลงกับสมาชิกหรือไม่ และเมื่อได้รับ สคบ. แล้วจะไม่สามารถปิดตัวเอง หรือเลิกกิจการได้ง่ายๆ หากเกิดเหตุที่บริษัทไม่สามารถจ่ายเงินตอบแทนให้สมาชิกได้ สคบ. จะดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อเรียกร้องผลประโยชน์ ให้กับสมาชิกจนถึงที่สุด ทั้งนี้ทางบริษัทได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
และ ผ่านการรับรองจาก “ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ” หรือ สคบ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสำเนาเอกสารการจดทะเบียน ท่านจะได้รับพร้อมกับชุดการดำเนินธุรกิจ หลังจากท่านสมัครเป็นสมาชิกเข้าร่วมโครงการฯ

วิธีสังเกตุและแยก MLM ออกจากลูกโซ่ที่ง่ายที่สุด ก็คือ ให้ดูว่าธุรกิจเครือข่ายนั้นๆ ได้จดทะเบียนกับ สคบ. เรียบร้อยหรือยัง ถ้า เป็นลูกโซ่ จะไม่สามารถได้รับ การรับรองจาก สคบ.เพราะการตรวจสอบจะเป็นไปโดยละเอียด ว่าแผนการตลาดนั้น ๆ มีแนวโน้มไปในด้านการระดมทุน หรือลูกโซ่ (ปิรามิด) หรือไม่ ประชาชนส่วนใหญ่มักจะยังสับสน และเกิดความเข้าใจผิดว่าการตลาดแบบเครือข่ายนั้น เหมือนกันกับลูกโซ่หรือปิรามิด ซึ่งในความจริงแล้วแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดในหลาย ๆ ด้าน เช่น การตลาดแบบเครือข่ายจะมุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพสินค้าที่สมราคา และจะไม่มีการยุแหย่ให้สมาชิกลงหุ้นเพิ่มเติม หรือเพิ่มทุนซึ่งต้องใช้เงินจำนวนหลักหมื่นหรือหลักแสนบาท ซึ่งแตกต่างจากลูกโซ่หรือปิรามิด ที่ ส่วนใหญ่จะกระทำในลักษณะ การนำสินค้าคุณภาพต่ำมาจำหน่ายในราคาสูง เพื่อการระดมเงินลงทุน โดยเริ่มจากน้อยและค่อย ๆ หว่านล้อมให้สมาชิกนำเงินมาลงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยนำผลตอบแทนในเบื้องต้น เป็นตัวล่อเพื่อดึงดูดใจ และดูดเงินลงทุนจากสมาชิกเพิ่มมากขึ้นในลักษณะการเพิ่มทุน จึงขอเตือนทุกท่านให้ ระวัง!! บริษัทที่มีพฤติกรรมดังกล่าวซึ่งปัจจุบันมักแฝงมาในรูปแบบต่าง ๆ และถือเป็นกาฝากที่ทำให้ระบบการตลาดดี ๆ อย่างระบบเครือข่ายได้รับความกระทบกระเทือน เพราะต้องสูญเสียความมั่นใจจากคนทั่วไป เนื่องจากการเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการทำงานในรูปแบบเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น